วันพฤหัสบดีที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2555

แนะนำสายนาฬิกาของ HIRSCH

สายนาฬิกาHIRSCH



                  HIRSCH  คิดค้น พัฒนา สายนาฬิกาที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยเพื่อให้ได้สายนาฬิกาที่มีความประณีตและคุณภาพดีที่สุด เป้าหมายในการพัฒนาสายนาฬิกาแต่ละรุ่นเพื่อให้แน่ใจว่าสายนาฬิกาของ Hirsch ทุกเส้นถูกสวยงาม คงทน และให้ความสบายขณะถูกสวมใส่ ด้วยความรู้ ความเข้าใจในการออกแบบและผลิตสายนาฬิกาที่ได้ส่งผ่านมาจากรุ่นสู่รุ่น เริ่มตั้งแต่ที่ Hirsch เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการนำหนังมาใช้ควบคู่ไปกับวัสดุอื่นมาใช้ในการผลิตสายนาฬิกา ทำให้สายนาฬิกาของ Hirsch เป็นที่รู้จักและยอมรับเป็นอย่างดีในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านสายนาฬิกา จากนาฬิกาหลากหลายแบรนด์ดัง ให้เป็นผู้ผลิตสายนาฬิกาให้กับนาฬิกาของตน





 Hirsch Quality System




                 สายนาฬิกาทุกเส้นของ Hirsch ความทนทานต่อน้ำ หรือ Water-resistant หลายคนอาจสับสนกับความหมายของคำๆนี้ Hirsch ได้นิยามเรื่องของ ความสามารถในการต้านทานน้ำ ไว้ดังนี้ ดูดซับน้ำน้อยและแห้งเร็วกว่าสายนาฬิกาทั่วๆไป โดยไม่เสียรูปทรงสีสันและคุณภาพของสายนาฬิกา ทำไมต้อง Sauna tested เนื่องจากเหงื่อไคลเป็นศัตรูตัวฉกาจที่มีผลทำให้อายุการใช้งานของสายนาฬิกาสั้นลงรวดเร็วที่สุด Hirsch จึงได้ทำการทดสอบสายนาฬิกาทุกเส้นในสภาวะแวดล้อมที่มีความชื้นและความร้อนสูง เพื่อให้แน่ใจว่าสายนาฬิกาทุกเส้นจะไม่สูญเสียความยืดหยุ่น ความคงทน และคุณลักษณะต่างๆของสายหนัง Hirschไปในระยะเวลาอันรวดเร็วเช่นเดียวกับสายนาฬิกาทั่วๆไป





Hirsch-100m Water-Resistant

                   สายนาฬิกาของ Hirsch ที่มีเครื่องหมาย 100m Water-resistant เป็นสายนาฬิกาที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้มีคุณลักษณะเช่นเดียวกันกับนาฬิกาสำหรับสวมใส่ในการดำน้ำ ด้วยคุณลักษณะที่โดดเด่นนี้เอง ไม่ว่าสายนาฬิกาจะสัมผัสถูกน้ำมากเท่าใด ก็ยังคงรูปทรง สีสัน และ คุณลักษณะของสาย Hirsch เอาไว้ได้อย่างดี ความแตกต่างระหว่าง สายที่มีเครื่องหมาย 100m Water-resistant กับ สายที่ไม่มี จะเป็นในเรื่องของการดูดซับน้ำและการระบายความชื้น เนื่องจากวัตถุดิบและเทคโนโลยีการผลิตทำให้สายนาฬิกาทั้งเส้นมีการดูดซับน้ำได้น้อยกว่าสายนาฬิกาในรุ่นทั่วๆไปของ Hirsch มาก ซึ่งทำให้สามารถระบายความชื้นได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย




Hirsch-No Allergy System

                            อาจมีหลายท่านที่กังวลใจเกี่ยวกับอาการแพ้ที่เกิดจากการสัมผัสหนังสัตว์ ที่เป็นวัตถุดิบหลักสำหรับสายนาฬิกาส่วนใหญ่ Hirsch ตระหนักถึงข้อจำกัดนี้เป็นอย่างดี ในปี ค.ศ. 1980 Hirsch ได้พัฒนาสารเคลือบหนังเพื่อลดอาการระคายเคืองที่เกิดจากการสวมใส่สายนาฬิกาหนังให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ โดยได้รับการศึกษาวิจัยร่วมกับสถาบันผิวหนังของมหาวิทยาลัยในประเทศออสเตรีย ซึ่งผลที่ได้รับเป็นที่น่าพอใจว่าสามารถลดอาการแพ้ที่เกิดจากการสัมผัสหนังได้เกือบ 100% เต็ม ตามข้อจำกัดทางการวิจัยทางการแพทย์ ในส่วนของหัวเข็มขัดรัดสายนาฬิกา Hirsch ได้นำวัสดุที่ปราศจากส่วนผสมของนิคเกิลมาใช้ เพื่อไม่เกิดการระคายเคืองขณะสวมใส่







สอนวิธีซ่อมแซมนาฬิกา


วิธีเปลี่ยนสายนาฬิกาหนัง


อุปกรณ์
1. สายนาฬิกาเส้นใหม่
2. ผ้าสำหรับรองนาฬิกา
3. เครื่องมือเปลี่ยนสายหนัง (Spring Bar Tool) หรือ ไขควงปากแบนขนาดไม่เกิน 1.6mm.
4. เครื่องมือเปลี่ยนสายหนัง หรือ ไม้แหลม 


ขั้นตอนการเปลี่ยนสาย
1. ปูผ้ารองก่อนเปลี่ยนสายนาฬิกาเพื่อป้องกันตัวเรือนนาฬิกาเป็นรอย
2. สอดด้าน "ส้อม" ของเครื่องมือเปลี่ยนสายหนัง หรือไขควงเข้าไประหว่าง lug และสายนาฬิกา พยายามขยับให้โดนชั้นของสปริง ออกแรงกดสปริงผลักไปทางสายพร้อมกดลงพร้อมกัน สปริงจะหลุดออกมาจากสาย ทำทั้งสองด้านเลยนะครับ
3. เมื่อถอดสายนาฬิกาออกมาแล้ว ดึงสปริงออกมาจากสายนาฬิกาเส้นเก่า และนำไปใส่ในสายนาฬิกาใหม่ โดยให้คุณนำด้านแท่งกด (หรืออาจใช้ไม้เล็กๆแทน) แทงเข้าไปในสายเส้นใหม่เพื่อให้เกิดรู แล้วจึงนำสปริงใส่เข้าไป ขยับให้ส่วนที่โผล่มาทั้งสองด้านของสปริงเท่ากัน 
4. เมื่อใส่สปริงแล้วก็จะถึงขั้นตอนนำสายใหม่มาประกอบกับนาฬิกาของคุณ โดยให้ท่อนหัวอยู่ที่เลข 12 ของนาฬิกา วิธีใส่สายให้คุณใช้มือนำสปริงบาร์ด้านหนึ่งเสียบเข้าไปก่อน ส่วนอีกด้านหนึ่งให้ใช้นิ้วของคุณกดลงไป และขยับให้พอดีกับรูครับ ที่ผมแนะนำให้ใช้มือเพราะว่าสำหรับขั้นตอนใส่สายถ้าใช้ไขควงช่วยกด อาจทำให้นาฬิกาเป็นรอยได้ครับ ทำเหมือนกันทั้งสองด้านครับ
5. เสร็จแล้วครับ เห็นไหมง่ายนิดเดียวเอง ทีนี่คุณก็ได้นาฬิกาเรือนใหม่แล้วครับ ^-^

สายนาฬิกา Timeswiss สายนาฬิกาหนังผลิตจากหนังแท้ทุกเส้น คุณภาพเยี่ยม ควบคุมการตัดเย็บด้วยช่างฝีมือที่มีประสปการณ์กว่า 20 ปี



















วันพุธที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

สัมภาษณ์ผู้มีประสบการณ์เกี่ยวกับร้านซ่อมนาฬิกา



เล่ห์เหลี่ยมร้านซ่อมนาฬิกา..

                         พอดีเกิดเหตุการณ์นี้กับแฟนน่ะค่ะ..เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อกลางเดือนกันยาที่ผ่านมา..แฟนนำนาฬิกา ยี่ห้อTISSOT รุ่น T-TOUCH ไปเปลี่ยนถ่าน ที่ร้านนาฬิกาโรเล็กซ์นำสว่าง..    ทางร้านบอกว่าให้มารับอีก3วัน..เพราะถ่านที่จะเปลี่ยนให้  ต้องไปซื้อมาจากที่อื่นก่อน..  พอครบกำหนด แฟนก้อไปรับ.. ครั้งแรกก้อไม่มีปัญหาอะไรค่ะ  แต่ว่าใช้ได้แค่2อาทิตย์.. ถ่านก้อหมดอีก   แฟนก้อนำกลับไปที่ร้านเดิมอีกครั้ง.. ช่างที่ร้านก้อรับนาฬิกาไว้แล้วบอกว่าจะตรวจดูให้ว่าเป็นเพราะอะไร?  โดยให้ทิ้งนาฬิกาไว้ที่ร้าน..  พอผ่านไปซัก2วัน..ช่างซ่อมนาฬิกาโทรมาบอกว่า..  นาฬิกาของแฟนเสีย  ต้องซ่อมโหมดใหม่ทั้งหมด..  มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 8,550บาท..  แฟนเราก้อทั้งงง ทั้งโมโหนิดๆว่า..อะไรเนี่ย จากแค่เปลี่ยนถ่านเท่านั้น กลับกลายมาเป็นงานซ่อมใหญ่แบบนี้..ราคาก้อ โห..แพงมาก..  แฟนเล่าว่า เลยบอกไปว่า..ถ้างั้น ไม่ต้องซ่อม.. เดี๋ยวเย็นนี้จะไปรับคืน  ช่างคนเดิมก้อรีบพูดมาทันทีว่า..ลดราคาค่าซ่อม เหลือ6,550บาทก้อได้..  แฟนเราก้อเริ่มรู้สึกแปลกๆ ว่าเฮ้ย..ทำมัย ลดราคากันง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ  ดูไม่มีมาตราฐาน ..ไม่น่าเชื่อถือเลย..  แฟนก้อเลยยืนยันตามเดิมว่า..ไม่เป็นไร ขอบคุณที่ลดราคาให้ แต่คงไม่ซ่อมหรอก..เพราะถึงยังงัยค่ายังซ่อมแพงอยู่ดี  อีกอย่างนาฬิกาเรือนนี้ ซื้อมาตั้งแต่ปี48..  ราคาตอนนั้น25,000 บาท..คิดว่าเก็บไว้ดีกว่า ไม่ซ่อมละ..  แล้วอีกอย่าง แฟนก้อยังมีนาฬิกาเรือนอื่นใช้อยู่อีก..  ช่างคนนั้นก้ออึกอักๆ..  พอตอนเย็น แฟนเราขับรถไปรับนาฬิกาคืน..  เพื่อนๆเชื่อมั๊ยค่ะ  นาฬิกาที่ช่างบอกว่า เสีย...ต้องยกเครื่อง ซ่อมใหม่ทั้งหมด โดยมีค่าใช้จ่าย.. ตอนแรก 8,550บาท.. แล้วลดให้เหลือ 6,550บาท..น่ะ   ปรากฎว่าใช้ได้เหมือนเดิม คือเดินได้ ถ่านเป็นปกติ..  พอแฟนเราถามๆๆๆๆๆ ว่าเป็นเพราะอะไร..  ช่างก้ออึกอักๆๆๆๆ อีก..  แฟนเราเลยถามว่า ตกลงนาฬิกาเสียตรงไหนเหรอ?  ช่างก้อบอกว่าดูๆให้แล้ว..  เผอิญดันดีขึ้นมา.. อ้อ แล้วไม่รู้ว่าช่างเกิดใจดีอะไรขึ้นมา หรือกลัวอะไรไม่รู้นะ..  ไม่คิดค่าใช้จ่ายอะไรเลยด้วย..  แฟนเล่าว่า ช่างคงเห็นสีหน้า และท่าทางแฟนแล้วว่า.. งานนี้ไม่ได้เจอลูกค้าหมูๆอย่างที่คิด 555..   พอกลับมาถึงบ้าน แฟนก้อเล่าเรื่องนี้ให้เราฟัง  ที่บ้านเรายังพูดกันเลยค่ะว่า..ช่างซ่อมนาฬิกาเจ้าเล่ห์มากๆๆๆๆๆ..  ตอนที่โทรมาบอกแฟนเราครั้งแรก ว่านาฬิกาเสีย ต้องซ่อมใหม่ทั้งหมด..และมีค่าใช้จ่ายถึง8.550บาทน่ะ..คงจะคิดว่าแฟนเราคงหลงกล และยอมซ่อมทันที.. แต่พอแฟนเราบอกว่าไม่ซ่อม ก้อทำเป็นใจดี..ลดราคาให้เหลือ 6,550บาท..  มิน่าตอนที่แฟนเรายืนกรานว่าไม่ซ่อม..และเน้นย้ำไปว่า..ให้เก็บอะไหล่นาฬิกาทุกๆชิ้นที่คุณบอกว่าเสียไว้ทั้งหมดด้วย.. เพราะผมจะเก็บไว้   ดูช่างคนนั้นอึกอัก ร้อนรนใหญ่เลย.. แฟนเรากับทุกคนที่บ้านเลยคิดว่า..  ต้องเป็นแผนการณ์จ้าเล่ห์ของช่างคนนั้นแน่นอน..  ที่เราเล่ามาทั้งหมด ก้อเพื่ออยากจะเตือนไม่ให้เพื่อนๆเจอเหตุการณ์แบบเราน่ะค่ะ..  เฮ้อ  คนสมัยนี้..ไว้ใจยากเหมือนกันเนอะ .. 

ขอขอบคุณ  นางสุวจี พรนาค  ที่แบ่งปันประสบการณ์

วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิธีดูแลรักษานาฬิกา

วิธีดูแลรักษานาฬิกา




  • หลีกเลี่ยงการไว้ในที่ที่มีอากาศที่เย็นจัด หรือ ร้อนจัด เพราะที่ที่ร้อนจัดจะทำให้อายุของ Battery เสื่อมเร็ว ส่วนอากาศเย็นจัดจะทำให้นาฬิกาเดินช้าและเดินไม่ตรงเวลาได้ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีต่างๆ ซึ่งอาจทำให้สีของนาฬิกาลอก และเสื่อมสภาพได้
  • ถ้านาฬิกาไม่มีระบบกันน้ำ (Water resistant) ไม่ควรใส่นาฬิกาล้างมือ หรืออาบน้ำ
  • เปลี่ยน Battery ทันทีเมื่อ battery นาฬิกาของท่านใกล้หมด
  • อย่าวางนาฬิกาไว้ใกล้ แหล่งกำเนิดไฟฟ้า หรือคลื่นแม่เหล็ก
  • หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกับวัตถุต่างๆ
  • หลีกเลี่ยงจากน้ำทะเล หรือน้ำเค็ม
  • เมื่อนาฬิกาเปียก หรือได้รับความชื้น ควรเช็ดนาฬิกาให้แห้งทุกครั้ง
  • ปรึกษาช่างผู้ชำนาญเมื่อนาฬิกาคุณมีปัญหา
  • ศึกษาวิธีการใช้งาน ข้อจำกัดในการใช้งานของนาฬิกาจากคู่มือ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  • สำหรับนาฬิกาที่ไม่มีระบบกันน้ำ
    หากนาฬิกาของท่านไม่ปรากฏเครื่องหมาย “WATER RESISTANT” บนฝาหลัง (และบนหน้าปัด สำหรับบางรุ่น) แสดงว่านาฬิกาของท่านไม่มีระบบกันน้ำ และต้องควรดูแลอย่าให้นาฬิกาสัมผัสถูกน้ำ ซึ่งอาจทำให้เครื่องที่อยู่ภายในเกิดความเสียหายได้ ในกรณีที่นาฬิกาของท่านเปียกน้ำ แนะนำให้ท่านนำนาฬิกาดังกล่าวไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการไซโก ทันที

    สำหรับนาฬิกาที่มีระบบกันน้ำ (ระดับ 3 bar)
    หากนาฬิกาของท่านปรากฏเครื่องหมาย “WATER RESISTANT” บนฝาหลัง (และบนหน้าปัด สำหรับบางรุ่น) แสดงว่านาฬิกาของท่านมีระบบกันน้ำ ทั้งนี้หากเป็นนาฬิกากันน้ำ ระดับ 3 bar นาฬิกาจะสามารถสัมผัสถูกน้ำได้ เช่น ล้างมือ ถูกฝน เป็นต้น แต่นาฬิกาจะไม่ได้ถูกออกแบบไว้สำหรับใส่ว่ายน้ำหรือดำน้ำ

    สำหรับนาฬิกาที่มีระบบกันน้ำ (ระดับ 5 bar)
    หากนาฬิกาของท่านปรากฏเครื่องหมาย “WATER RESISTANT” บนฝาหลัง (และบนหน้าปัด สำหรับบางรุ่น) แสดงว่านาฬิกาของท่านมีระบบกันน้ำ ทั้งนี้หากเป็นนาฬิกากันน้ำ ระดับ 5 bar นาฬิกาจะสามารถสวมใส่ขณะทำการว่ายน้ำ (ในสระ), เล่นเรือใบ,และ ใส่อาบน้ำ แต่นาฬิกาจะไม่ได้ถูกออกแบบไว้สำหรับใส่ดำน้ำและดำน้ำลึก

    สำหรับนาฬิกาที่มีระบบกันน้ำ (ระดับ 5 bar/15 bar/20 bar)*
    หากนาฬิกาของท่านปรากฏเครื่องหมาย “WATER RESISTANT” บนฝาหลัง (และบนหน้าปัด สำหรับบางรุ่น) แสดงว่านาฬิกาของท่านมีระบบกันน้ำ ซึ่งถูกออกแบบและผลิตมาให้มีการกันน้ำระดับ 5 bar/10 bar/15bar โดยทั้งนี้สามารถสวมใส่นาฬิกาขณะว่ายน้ำและดำน้ำระดับตื่นๆ แต่ไม่สามารถใส่เพื่อดำน้ำลึกแบบ Scuba ควรสวมใส่นาฬิกาดำน้ำรุ่น SEIKO Driver ซึ่งเป็นนาฬิกาดำน้ำลึกแทน การใช้นาฬิกาที่มีระดับการกันน้ำ 5-20 bar ขณะอยู่ในน้ำนั้น และต้องแน่ใจว่าเม็ดมะยม อยู่ในตำแหน่งล็อค เพื่อป้องกันน้ำเข้าทางเม็ดมะยม ห้ามดึงเม็ดมะยมขณะที่นาฬิกาเปียกน้ำหรืออยู่ในน้ำ ถ้าใช้ในน้ำทะเลต้องทำนาฬิกาให้แห้งทันทีหมายเหตุ แรงดันในมาตรวัดระบบ bar จะเป็นระดับแรงดันที่ได้จากการทดสอบ ซึ่งไม่ใช่การทดสอบดำน้ำลึกจริง เพราะ การเคลื่อนไหวในการดำน้ำจะมีแรงดันที่เพิ่มขึ้นกว่าความลึกที่วัด ดังนั้นจึงควรพิจารณาในการสวมใส่นาฬิกาขณะทำการดำน้ำลึก

    ระดับอุณหภูมิสำหรับนาฬิกา (สำหรับนาฬิกาควอทซ์แบบเข็ม)
    นาฬิกาของคุณจะทำงานปกติในอุณหภูมิระหว่าง 5 – 35 องศาเซลเซียส (41-95 องศาฟาเรนไฮต์) ทั้งนี้หากอุณหภูมิเกินกว่า 60 องศาเซลเซียส หรือ 140 องศาฟาเรนไฮต์ (สำหรับบางรุ่นที่เกิน 50 องศาเซลเซียส หรือ 122 องศาฟาเรนไฮต์) อาจเป็นสาเหตุทำให้แบตเตอรี่ภายในนาฬิกาเกิดความเสียหายได้

    การสั่นสะเทือนและการกระแทก
    การทำกิจกรรมและการเคลื่อนไหวทั่วๆไปขณะสวม ใส่นาฬิกา จะไม่มีผลกับนาฬิกาของคุณ แต่ต้องระวังไม่ให้นาฬิกาตกหรือกระแทกลงสู่พื้นผิวที่แข็ง อาจทำให้นาฬิกาชำรุด

    สนามแม่เหล็ก
    นาฬิกาจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากสนามแม่เหล็ก ควรเก็บนาฬิกาให้ห่างจากวัตถุที่ก่อให้เกิดสนามแม่เหล็ก (ในกรณีที่เป็นนาฬิการะบบควอทซ์ นาฬิกาจะเดินเป็นปกติ หากนำนาฬิกาออกจากบริเวณที่มีสนามแม่เหล็ก)

    ช่วงเวลาในการตรวจเช็ค
    ควรทำการตรวจเช็คนาฬิกาทุก 2-3 ปี โดยสามารถนำนาฬิกาของท่านไปทำการตรวจเช็คที่ศูนย์บริการไซโก เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับบริการและอะไหล่ที่มีคุณภาพ


    การดูแลตัวเรือนและสาย
    เพื่อป้องกันการเกิดสนิมและอาการผุ กับตัวเรือนและสายนาฬิกา ซึ่งมีสาเหตุมาจาก คราบสกปรก, คราบน้ำมัน, เหงื่อ เป็นต้น โดยสามารถทำความสะอาด โดยการเช็ดคราบเหล่านี้ด้วยผ้านุ่มแห้ง


    สารเคมี
    ควรระวังไม่ให้นาฬิกาสัมผัสกับสารเคมี ประเภทสารละเหย (แอลกอฮอล์ และน้ำมันเชื่อเพลิง), ปรอท (จากการแตกของโทโมมิเตอร์), เครื่องสำอางประเภทสเปรย์, ผงซักฟอกและสารเคมีประเภทตัวทำละลาย, คราบกาวและสี เป็นต้น ซึ่งอาจทำให้สีของตัวเรือนและสาย ซีดจาง, ลอก หรือเกิดความเสียหายได้


    ข้อควรระวังเกี่ยวกับแผนป้องกันฝาหลัง
    ถ้านาฬิกาของคุณมีแผ่นสติกเกอร์ป้องกันฝาหลัง ติดอยู่บนฝาหลัง ควรลอกออกก่อนที่จะสวมใส่นาฬิกา หากไม่ลอกออกและสวมใส่ทับไว้ เพราะบริเวณรอบๆ แผ่นสติกเกอร์เป็นที่สะสมของคราบต่างๆ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ฝาหลัง




    อ้างอิง : http://www.bankwatch-clock.com/store/article/view/วิธีการบำรุงรักษานาฬิกา-65038-th.html
  • นาฬิกาแปลก ๆ

    นาฬิกาเรือนนี้มีเพียง 9 เรือนในโลกเท่านั้น ตัวเรือนทำจาก เหล็กผุๆขึ้นสนิม (ผมพิมพ์ไม่ผิดครับ เหล็กผุๆขึ้นสนิม) แต่มันไม่ใช่เหล็กขึ้นสนิมเดื่อนๆทั่วไป
    รายละเอียด

    • นาฬิกาเรือนนี้มีชื่อว่า Titanic DNA Day & Night watch ออกแบบโดย Romain Jerome
    • นาฬิกาเรือนนี้ทำออกมาแบบจำกัดจำนวน เพียง 9 เรือนเท่านั้น
    • นาฬิกาเรือนนี้จะนำคุณดำดิ่งสู่ห่วงมหาสมุทรอันมืดมิด กับ ช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์การเดินเรือในปี 1912 เนืองจากชิ้นส่วนบางชิ้นของนาฬิกาทำจากเศษเหล็กของเรือไททานิค ที่ได้จากการสำรวจ
    • นาฬิกามี tourbillon cages จำนวน 2 ชุด โดยชุดที่เป็นรูปดวงอาทิตย์จะหมุนทำงานในช่วง เที่ยงคืนถึงเที่ยงวัน(AM) ส่วนอีกชุดจะหมุนทำงานในช่วงเที่ยงวันถึงเที่ยงคืน(PM)
    • หลายคนอาจจะสังเกตว่านาฬิกาเรือนนี้ไม่มีเข็มนาฬิกา ใช่ครับ ตามชื่อรุ่นเลยครับ Day&Night คือนาฬิกาเรือนนี้จะบอกคุณแต่ว่าตอนนี้กลางวันหรือกลางคืนเท่านั้น หลายคนอาจจะคิดว่าแล้วมันจะขายได้หรือ ตอบว่าขายได้ครับ 9 เรือน ขายหมดภายในเวลา 48 ชั่วโมงเท่านั้น
    • อาจจะตกตะลึงยิ่งขึ้นว่านาฬิกาที่บอกแค่กลางวันกลางคืนเรือนนี้มีราคาสูงถึง 3แสนเหรียญสหรัฐ(9ล้านบาท)
    ข้อมูลอ้างอิง


    • http://www.ablogtoread.com/titanic-dna-day-night-what-time-is-it-you-ask-at-this-price-does-it-really-matter/
    Binary Flow
    สำหรับวันนี้ได้ไปแวะเจอ Gadget แปลกๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องแต่งกายเราครับ นั้นก็คือ นาฬิกาข้อมือ พี่ๆ น้องๆ ชาว Techxcite คงจะเคยเห็นนาฬิกาข้อมือที่ไม่มีเข็มบนหน้าปัด ไม่มีตัวเลขบอกเวลา มีแต่แสงไฟเท่านั้น ซึ่งหลายๆ คนก้สามารถมองและเข้าใจว่าเวลาในตอนนั้นเท่าไร ซึ่งนาฬิกานี้เป็นนาฬิกาที่เหมาะสำหรับคนหัวไว คิดไว และเพิ่มความแตกต่างจากสิ่งจำเจนั้นเองครับ 
    นาฬิกานี้ก็สามารถบอกเวลาได้เป็นหลักชั่วโมง นาทีหลักสิบ หลักหน่วย  และยังสามารถบอกวันที่ เดือน ปี ได้อีก โดยมีการคำนวณเป็นวันหลักสิบ หลักหน่วยเช่นกัน แต่ว่าการมองนั้นหากคนไม่รู้นั้นจะมองได้ยากหน่อย เพราะว่าจะแสดงเป็นระบบเลขฐาน 2 ก็คือ 0 กับ 1 ซึ่งผู้ใช้ต้องคำนวณในขณะที่ดูนั้นเอง 
    ข้อมูลอ้างอิง : http://hitech.sanook.com/900542/binary-flow-นาฬิกาแปลกๆ-สุดฮิตของคนคิดไว/

    สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับนาฬิกา

    สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับนาฬิกา
    1) ถ่านนาฬิกาทั่วไปมีอายุโดยเฉลี่ยประมาณ 2 ปี แต่ถ่านของนาฬิกาที่มีฟังก์ชั่นจับเวลา (Chronograph) อาจอยู่ได้ไม่เกิน 1 ปี ขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งานจับเวลา ซึ่งผู้ใช้ควรเปลี่ยนถ่านนาฬิกาตามระยะเวลาที่กำหนด เพราะหากทิ้งไว้นานเกินไป สารจากถ่านจะรั่วและกัดกร่อน จนทำให้ฟันเฟืองนาฬิกาเสียได้

    2) ไม่ควรทิ้งนาฬิกาไว้ในที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำจนเกินไปเป็นเวลานาน หลีกเลี่ยงการกระแทกแรง ๆ และไม่ควรวางนาฬิกาไว้ในบริเวณที่มีอุปกรณ์แม่เหล็กหรือสนามแม่เหล็กสูง เพื่อให้นาฬิกาทำงานอย่างเที่ยงตรงเสมอ
     3) หากเป็นนาฬิกาออโตเมติกที่เพิ่งซื้อมาใหม่ (ข้อนี้แน้นครับ) และเข็มนาฬิกานิ่งสนิท ให้ไขลานก่อน 30 รอบเพื่อให้ลานเพียงพอแล้วจึงตั้งเวลา นอกจากนี้ ควรใส่นาฬิกาทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ แต่หากใส่ทุกวันและถอดเก็บเพียงตอนกลางคืน ก็ไม่จำเป็นต้องไขลานด้วยมืออีก
     4) หากใส่นาฬิกาที่มีสายหนัง และใส่ทุกวัน ควรเปลี่ยนสายหนังทุกหนึ่งปีครึ่ง และไม่ควรใส่ลงน้ำ แม้ว่าจะมากับนาฬิกากันน้ำก็ตาม
     5) ควรส่งนาฬิกาเข้าศูนย์เพื่อตรวจเช็คอย่างน้อยปีละครั้งและ เปลี่ยนยางกันน้ำ อย่างน้อย 2 ปีต่อครั้ง หรือทันทีที่ชำรุด โดยเฉพาะผู้ที่ใส่นาฬิกาว่ายน้ำเป็นประจำ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยต้องตรวจสอบว่าเม็ดมะยมขันแน่นก่อนว่ายน้ำ และไม่ได้กดปุ่มใดๆเอาไว้ และหลังว่ายน้ำในทะเลหรือสระว่ายน้ำซึ่งมีส่วนผสมของคลอรีน ควรล้างนาฬิกาด้วยน้ำสะอาดโดยเปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่านนาฬิกา และไม่ควรใส่นาฬิกาอาบน้ำ แม้ว่าจะเป็นนาฬิกากันน้ำก็ตาม เพราะสบู่จะลดแรงตึงผิวของน้ำ ทำให้น้ำซึมเข้าไปในนาฬิกาได้
     6) หากไม่ใช่นาฬิกากันน้ำ แต่นาฬิกาตกน้ำ ให้ถอดออกและส่งศูนย์บริการทันที เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำขังอยู่ด้านใน และป้องกันความเสียหายต่อกลไกการทำงาน และควรอ่านคู่มือของนาฬิกาด้วย


    อ้างอิง : zoo weekly vol. 4 no. 209 march 2012

    Review รีวิว นาฬิกา Casio G-Shock Gulfman Blue G-9100-2DR




    Casio Gulfman G-9100-2DR จัดอยู่ใน G-Shock ที่เป็น Master of G อีกเช่นกัน เหมือนกับ G-9100-1DR ที่เป็นสีดำ
    รูปกราฟฟิก นาฬิกา Casio G-Shock Gulfman Blue G-9100-2DR
    Casio , G-SHOCK , GULFMAN , G-9100 , G-9100-2 , G-9100-2D , G-9100-2DR , Casio G-Shock Gulfman Blue G-9100-2DR
    G-9100-2DR นี้เป็นสีน้ำเงินค่อนข้างเข้ม สีนี้เข้ากับ Concept Gulfman เลยครับ ซึ่งเป็นสีน้ำเงิน น้ำทะเลครับ
    การออกแบบโทนสีใช้สีน้ำเงินเข้มทั้งเรือนและสาย แซมด้วยขอบหน้าปัดด้านข้างที่เป็นสีดำส่วนเดียว  ตัวอักษร G-Shock และ G รวมทั้งคำที่บอกฟังก์ชั่นต่างๆ บนนาฬิกา เป็นสีขาว Contrast กับสีน้ำเงิน ทำให้ตัวอักษร ดูโดดเด่นขึ้นมาทันที
    ส่วนต่อระหว่างตัวเรือนและสาย ยึดติดด้วยสกรูทั้งสองข้าง
    สายส่วนที่ใกล้ตัวเรือน เป็นส่วนหยักร่อง เพิ่มมิติให้กับสายนาฬิกา
    รูกลัดสายนาฬิกาเป็นแบบรูเดียว (Single Hole) ซึ่งต่างจาก G-Shock  Mudman และ G-Shock Riseman ซึ่งรูกลัดสายเป็นแบบสองรู (Double Hole)
    ถ่ายมุมซ้าย ให้เห็นทั้งเรือนกันแบบจะๆ

    รูปถ่ายหน้าตรงครับ

    G-9100-2DR  Module no. คือ 3088 เหมือนกับ G-9100-1DR จะสังเกตว่า แม้ว่า สีสันของนาฬิกาจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าเป็นรุ่นเดียวกันละก็  Module no. จะเหมือนกันครับ
    Module no. ในคู่มือ จะตรงกับ Module no. ที่สลักตรงฝาหลังนาฬิกาครับ
    Packaging เป็นกล่องกระดาษ มีฝาปิดและฝาครอบอีกชั้นนึง
    อ้างอิงจาก http://blog.morningly.com/?p=345

    นาฬิกาทราย

    นาฬิกาทราย
                     ซึ่งมีลักษณะเป็นแก้วเป่าสองชิ้นมีรูแคบๆ กั้นกลาง โดยใช้ทรายเป็นตัวบอกเวลา จัดเป็นนาฬิกาแบบแรกที่ไม่อาศัยปัจจัย ดิน ฟ้าอากาศ มักใช้จับเวลาระยะสั้นๆ เช่น การกล่าวสุนทรพจน์ การบูชา การเฝ้ายาม และการทำอาหาร เป็นต้น 
                                  สำหรับนาฬิกายุคใหม่ พัฒนาขึ้นช่วง ค.ศ.100 - 1300 ในยุโรปและในจีน คำว่า ?Clock? ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า ระฆัง อาศัยหลักการดึงดูดก่อให้เกิดน้ำหนักที่จะเคลื่อนคันบังคับ ซึ่งจะทำให้เข็มนาฬิกาเคลื่อนที่ 

    นาฬิกาควอตซ์ & นาฬิกาคอมพิวเตอร์

        
    นาฬิกาควอตซ์ & นาฬิกาคอมพิวเตอร์
                              ในปี ค.ศ.1929 Warren Morrison ได้ประดิษฐ์ นาฬิกาควอตซ์ ขึ้นเฉพาะที่เป็น นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาประเภทนี้เที่ยงตรงมาก และในปี ค.ศ.1980 เป็นช่วงเวลาที่เริ่มนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ มีการประดิษฐ์ นาฬิกาโดยใช้ชิป ( chip ) เป็นส่วนประกอบเพิ่มเติมในกลไกของนาฬิกา ซึ่งนอกจากจะบอกเวลาแล้วยังสามารถเก็บข้อมูลที่จำเป็น และสามารถใช้เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วย หลังจากนั้นเทคโนโลยีในด้านการประดิษฐ์นาฬิกาได้ก้าวหน้าเรื่อยมา จนกระทั่งทุกวันนี้เรามี นาฬิกาคอมพิวเตอร์ ใช้กันแล้ว 

    นาฬิกาน้ำ



    นาฬิกาน้ำ 
                  ต่อมาชาวกรีกโบราณรู้จักพัฒนา นาฬิกาน้ำ ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งกว่านาฬิกาแดด เรียกว่า clepsydra ( คำนี้เป็นคำสนธิที่มีรากศัพท์มาจากคำว่า clep ซึ่งแปลว่า ขโมย และคำ sydra ที่แปลว่า น้ำ ) เพราะนาฬิกานี้ทำงานโดยอาศัยหลักที่ว่า " ภาชนะดินเผาที่มีน้ำบรรจุเต็มเวลาถูกเจาะที่ก้นน้ำจะไหลออกจากภาชนะทีละน้อยๆ เหมือนการขโมยน้ำ " ดังนั้นชาวกรีกโบราณจึงได้กำหนดระยะเวลาที่น้ำไหลออกจนหมดภาชนะว่า 1 clepsydra  แต่นาฬิกาน้ำนี้ต้องมีการเติมน้ำใหม่ทุกครั้งที่หมดเวลา 1 clepsydra และในฤดูหนาวน้ำจะแข็งตัวทำให้ไม่สามารถใช้นาฬิกาได้
                             นาฬิกาน้ำของอียิปต์ เมื่อประมาณ 1,400 ปี ก่อนคริสตกาล อาศัยน้ำหยดออกจากรูข้างใต้ภาชนะ

    นาฬิกาแดด (Sundial)



     
    นาฬิกาแดด(Sundial)



                        หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นหรือรู้จักกับนาฬิกาแดด แต่ก็คงจะไม่รู้กันสิว่า ประวัติของนาฬิกาแดดเป็นอย่างไร นาฬิกาแดด   ถือว่าเป็นเครื่องบอกเวลาและเครื่องมือวัดเวลา วิธีธรรมชาติแบบหนึ่ง ทีมีใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน โดยอาศัยการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ที่ปรากฎในแต่ละวันเป็นหลัก สมัยโบราณก่อนที่จะเริ่มมีนาฬิกาจักรกลหรือนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ ไว้ใช้บอกเวลาเช่นในปัจจุบันมนุษย์ใช้ประโยชน์จากปรากฎการณ์ธรรมชาติ ในการสังเกตการเปลี่ยนแปลงต่างๆจากธรรมชาติเพื่อการกำหนดเวลา 
                        โดยเฉพาะใช้ดวงอาทิตย์เป็นเครื่องชี้บอกเวลาธรรมชาติที่สำคัญที่สุด เช่นเวลาเช้าดวงอาทิตย์ขึ้น เวลาเที่ยงดวงอาทิตย์อยู่ตรงศีรษะ เวลาเย็นค่ำดวงอาทิตย์ตกลับจากขอบฟ้าส่วนเวลากลางวัน ในช่วงเวลาอื่นก็อาศัยสังเกตดูจากการทอดเงา ของวัตถุใดวัตถุหนึ่งที่กำหนดให้เป็นเครื่องบอกเวลาของคนในท้องถิ่นนั้น ซึ่งอาจไม่มีความเที่ยงตรง แต่ก็ยอมรับได้สมัยนั้นมาใช้กำหนดเวลาด้วยหลักการตามที่กล่าวมา มนุษย์ในระยะแรกจึงได้ประดิษฐ์คิดค้นนาฬิกาแดด (Sundisl)ให้มี รูปทรงที่เหมาะสมขึ้นมาใช้งานเป็นเครื่องบอกเวลาอย่างง่าย 
                         นาฬิกาแดดคิดค้นขึ้นครั้งแรกเมื่อใดไม่ปรากฎ แต่จากหลักฐานพบว่านาฬิกาแดดพัฒนาขึ้น ในสมัยอียิปต์โบราณหรือราว 2000ปี มาแล้ว นาฬิกาแดดนั้นแสดงเวลาที่อาจคลาดเคลื่อนไป จากเวลานาฬิกาข้อมือของผู้สังเกต แต่ถ้าได้เข้าใจหลักการของนาฬิกาแดดแล้วนำค่าเวลามาแก้ไข เวลาที่ได้จะมีความถูกต้องพอสมควร ที่เป็นเช่นนี้เพราะนาฬิกาแดดนั้น แสดงเวลาธรรมชาติที่ควรจะเป็น ซึ่งต่างจากเวลาของนาฬิกาข้อมือหรือนาฬิกาทั่วไปที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน บอกวัดเวลาหรือแสดงเวลาที่ต้องการให้เป็น หมายความว่าเวลาที่ แสดงจากนาฬิกาแดดนั้นเป็นเวลาที่เราเรียกว่าเวลาดวงอาทิตย์ ณ ตำบลที่นั้นอยู่เป็นประจำ ไม่ใช่เวลาท้องถิ่นสมมุติ หรือเวลาที่เราต้องการให้เป็น

    วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

    ประวัติความเป็นมาของนาฬิกา



            ในสมัยโบราณมนุษย์ยังไม่มีนาฬิกาใช้ การดำเนินชีวิตขึ้นอยู่กับธรรมชาติ ดวงอาทิตย์จึงเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่มนุษย์รู้จัก นักประวัติศาสตร์ชื่อ    Herodotus    ได้บันทึกไว้ว่า ประมาณ 3,500 ปีก่อน มนุษย์รู้จักใช้ นาฬิกาแดด ซึ่งนับว่าเป็นนาฬิกาเรือนแรกของโลก โดยสามารถอ่านเวลาได้จากเงาที่ตกทอดลงบนขีดเครื่องหมาย